“จับมันให้ได้” เสียงตะโกนโวกแหวกของคนในหมู่บ้านดังไม่ขาดสาย ประกายไฟจากคบเพลิงที่ส่อง สว่างเป็นทิวแถวเรียงรายไม่ขาดสาย เสียงโลหะกระทบกันดังสนั่นหวั่นไหว พร้อมๆกับเสียงปืนที่ส่งเสียง คำรามลั่นไม่ขาดสาย พร้อมกับประกายไฟสีแดงสดที่ถูกยิงขึ้นฟ้าเพื่อส่งสัญญาณอะไรบางอย่าง
“แฮ่กๆ..” เสียงหอบหายใจด้วยความเหนื่อยหอบจากร่างเล็กภายใต้ชุดตัวยาวที่ดูขาดรุ่ยจนแทบจะ มองไม่ออกว่ามันเป็นชุด ผิวขาวราวหิมะมีรอยฟกช้ำเป็นจ่ำ รอยเลือดที่มุมปากไหลเป็นทางไม่ขาด ดวงตากลมใสที่น่าจะเป็นสีอ่อนเช่นเดียวกับคนทั่วไป กลับแดงฉ่านจนน่ากลัว รอยสักที่ข้างแก้มขาวเปร่งแสง อ่อนๆ ร่างกายอันแสนบอบบางสั่นเทาด้วยความกลัว
มือเรียวที่มีเล็บยาวคมค่อยๆผลักประตูไม้บานใหญ่ให้เปิดออก ก่อนที่ร่างเล็กๆจะลอบเข้าไปข้างใน ช้าๆ ก่อนจะนั่งกอดเข่าน้ำตาคลอหน่วงด้วยความกลัว มือเรียวยกขึ้นมาปิดใบหูที่รีแหลมต่างจากมนุษย์ทั่วไปช้าๆ
“ท่านแม่..ฮึก..ฮืออ..ข้ากลัว”
::::::::::::::::::::::: I’m not a MONSTER ::::::::::::::::::::::::::::
“หามันพบไหม” เสียงทุ้มกังวานของชายร่างสูงใหญ่เอ่ยถามด้วยท่าทางที่เต็มไปด้วยความ หงุดหงิด ใบหน้าที่มีริ้วรอยเหี่ยวย่นตามกาลเวลาขมวดมุ่นบ่งบอกความไม่พอใจอยู่ในที
“มะ..ไม่พบครับ”
“หึ๊ย..ถ้างั้นก็แยกย้ายกันกลับไปพักผ่อนซะ มันคงหลบอยู่ที่ไหนสักแห่งในหมู่บ้านเนี่ยแหละ” สั่งเสียงกร่าว ก่อนจะหุนหันเดินออกไปพร้อมด้วยผู้ติดตามใบหน้าเรียบเฉยที่เดินตามติดไม่ห่าง
รถมัสแตงคันเก่าที่จอดรอถูกเปิดประตูออกโดยคนที่รอทำหน้าที่อยู่ก่อนแล้ว ก่อนที่ร่างสูงของชายวัยกลางคนจะเดินเข้าไป รถเคลื่นตัวออกไปแล้ว เป้าหมายคือคฤหาสหลังงามที่ตั้งตระหง่านอยู่บนผ่าเหนือหมู่บ้าน
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะ ท่านผู้นำ” หญิงรับใช้ในยูนิฟอมเรียบหรูกล่าวต้อนรับด้วยความนอบ น้อม พร้อมกับรับเอาเสื้อคลุมตัวยาวมาถือเอาไว้
“วันนี้คุณชายจะกลับเข้ามาตอนสายๆนะค่ะ ไม่ทราบว่าท่านผู้นำจะรับอะไรเป็นอาหารว่างดีค่ะ” กล่าวรายงานทุกความเคลื่อนไหวในบ้าน ก่อนจะเอ่ยถามอย่างเช่นทุกวัน
“กาแฟ” ตอบเสียงเรียบด้วยความเฉยชา ก่อนจะเดินเข้าสู่ห้องทำงานอย่างเรียบเฉย สิ่งของประดับผนังที่ต่างออกไปจากที่อื่นๆ เพราะแทนที่จะเป็นเข้าสัตว์หรือว่าปลาสตาฟ กลับกลายเป็นหัวของอะไรบางอย่างที่ดูน่ากลัว
ศีรษะของอมุษย์สายพันธ์ต่างๆที่ไม่สามารถระบุได้ถูแขวนประดับเอาไว้ราวกับเป็นของสวยงามอันน่าชื่นชม แต่มันจะแปลกอะไรในเมื่อบ้านหลังนี้เป็นของตระกูลชเว ตระกูลที่ได้รับการสืบทอดมารุ่นต่อรุ่นในเรื่องของการปราบเหล่าอสูรร้าย
ชเว ยงมุค ผู้นำตระกูลคนปัจจุบัน นั่งลงบนเก้าอี้ประจำตัวอย่างเหนื่อยอ่อน มือหนาหยิบเอาของเหลวสีสดที่อยู่ในหลอดแก้วทรงสวยมาจรดริมฝีปากแล้วละเลียดดื่มมันอย่างช้าๆ ก่อนจะเก็บมันเอาไว้ในลิ้นชักใต้โต๊ะอีกครั้งอย่างถนุถนอม
“ฉันจะต้องจับแกให้ได้” ใบหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอยดูกลับมาสดใสอีกครั้ง สายตาคมมองตรงไปยังกองรูปภาพโพลาลอยที่วางเกลื่อนอยู่บนโต๊ะด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนา
แสงนวลอ่อนของพระอาทิตย์ส่งลอดผ่านประตูไม้บานใหญ่ ก่อนจะส่องกระทบกับผิวนวลปรั่งของร่างเล็กที่นั่งขดตัวอยู่ในซอกหลืบของห้อง กลุ่มผมสีบลอนสว่างดูเปร่งประกายเมื่อกระทบกับแสง การขยับตัวช้าๆบอกให้รู้ได้เป็นอย่างดีว่า คนตัวบางกำลังตื่นจากนิทรา เปลือกตาบางค่อยๆกระพริบช้าๆก่อนจะเปิดขึ้นเผยให้เห็นนัยตาสีแดงสด คราบน้ำตาที่ไหลอาบปรางแก้มใส ผ่านรอยสักสีเข้มที่ข้างแก้มยังคงไม่จางหาย แขนเรียวขยับบิดด้วยความเมื่อยล้า ขาเรียวที่เต็มไปด้วยรอยแผลค่อยๆพยุงร่างเล็กให้ลุกขึ้นยืนอีกครั้ง ขนนกสีขาวสะอาดปลิวไสวไปทั่วห้องพร้อมกับปีกสีขาวสะอาดที่สยายออกมาจากแผ่นหลัง ถึงแม้จะมีคราบเลือดที่แห้งกรังติดตามกาย หากแต่ร่างน้อยๆนั้นก็ยังคงดูบริสุทธิ์ราวกับผ้าขาว
//แกรก//
เสียงอะไรบางอย่างจากหลังบานประตูทำเอาร่างเล็กถึงกับสะดุ้งตกใจด้วยความกลัว เท้าเล็กรีบพาร่างกายเข้าไปหลบอยู่ในมุมมืดของห้องเช่นเดิม ปีกสีขาวหุบลงห่อหุ่มกายด้วยความกลัว
บานประตูค่อยๆเปิดออกช้าๆ พร้อมกับร่างสูงของชายหนุ่มที่เดินเข้ามาในห้อง ใบหน้าคมอันแสนจะหล่อเหลาดูนิ่งสนิท ไร้ซึ่งความรู้สึก ดวงตาดำขลับกวาดมองไปทั่วห้องราวกับต้องการหาอะไรบางอย่าง จนร่างเล็กที่แอบซ่อนอยู่ต้องรีบยกมือขึ้นมาปิดเรียวปากป้องกันเสียงร้อง
ขายาวสมส่วนก้าวฉับๆไปปิดหน้าต่างจนทั้งห้องไร้ซึ่งแสงสว่าง มีเพียงลำแสงเล็กๆที่ส่องลอดออกมาเป็นสายทอดลงสู่พื้น
“ออกมาได้แล้ว” เสียงทุ้มเอ่ยออกมาลอยๆโดนไร้ซึ่งคู่สนทนา
“ไม่ต้องกลัว ฉันไม่ทำร้ายเธอ” กล่าวย้ำอีกครั้งเพื่อให้ใครอีกคนที่อยู่ในนี้ได้รู้ตัว
ร่างบางค่อยๆขยับตัวออกมาช้าๆ ใบหน้าเรียวหวานช้อนมองคนตรงหน้าด้วยความสงสัย รอยยิ้มจนเห็นลักยิ้มทั้งสองข้างแก้มถูกส่งมาให้กับร่างบาง มือใหญ่ยื่นออกไปตรงหน้าช้าๆหวังจะสัมผัสกับกลุ่มผมสีอ่อน แต่ร่างเล็กก็รีบขยับตัวหนีด้วยความกลัว กายบางสั่นเทาจนเห็นได้ชัด
“ไม่ต้องกลัวนะเจ้าตัวเล็ก ข้าไม่ทำร้ายเจ้า” เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น ร่างบางยอมอยู่นิ่งๆ หากแต่รอยสักที่ข้างแก้มกับเปร่งประกายแสงเช่นเดียวกับคืนที่ผ่านมา
มือใหญ่ลูบเบาๆลงบนกลุ่มผมนุ่ม ความอ่อนโยนที่ได้รับช่วยบรรเทาความหวาดกลัวให้กับร่างบางได้เป็นอย่างดี
“เจ็บมากไหม หื้ม..เดี๋ยวข้าจะทำแผลให้เจ้านะ” ยิ้มบางๆให้เมื่อเห็นร่างบางไม่ได้ขยับตัวหนีเช่นที่ผ่านมา
กล่องปฐมพยาบาลถูกตั้งไว้ตรงหน้า มือหนาค่อยๆบรรจงทำแผลให้กับคนตัวเล็กช้าๆ โดยทุกการกระทำถูกจับจ้องด้วยดวงตาคู่หวานสีแดงสดไม่ขาด
“เสร็จแล้ว...ไม่เจ็บแล้วนะเจ้าตัวเล็ก” ยิ้มให้ร่างตรงหน้าพร้อมกับโยกศีรษะเล็กเบาๆด้วยความเอ็นดู
“ขะ..ข้าชื่อ..ฮยอกแจ” เรียวปากสีหวานค่อยๆเอื่อนเอ่ยออกมาช้าๆ เสียงนุ่มอันหวานหูพร้อมกับนัยตาหวานที่ช้อนมองช้าๆ พาให้ร่างสูงใจหระตุกวูบ
“ยินดีที่ได้รู้จักนะปีศา....”
“ข้าไม่ไช่ปีศาจนะ” ยังไม่ทันจะพูดจนจบประโยค ก็ถูกเสียงหวานตะโกนแทรกมาเสียก่อน ใบหน้าหวานดูบูดบึ้งแสดงถึงความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด
“ครับๆ ไม่ใช่ปีศาจก็ได้” ยิ้มให้อีกครั้งกับท่าทางเด็กๆที่คนตัวเล็กกำลังทำ
รอยสักข้างแก้มค่อยๆอ่อนแสงลงหากแต่เป็นปรางแก้มขาวที่กลับเป็นสีแดงระเรื่อแทน เสื้อผ้าที่ขาดรุ่ยไหลหลุดจากไหล่บางเผยให้เห็นผิวขาวๆใต้เนื้อผ้า
“ข้าว่าข้าหาเสื้อผ้าใหม่ให้เจ้าดีกว่านะ” ร่างสูงกำลังจะก้าวออกไปจากห้องหากแต่ก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อมือเรียวขาวจับยึดเสื้อเชิ้ตเนื้อดีเอาไว้แน่น
“ว่าไงหื้ม ฮยอกแจ”
“ขะ..ข้าไปด้วยได้ไหม” บอกเสียงสั่น นัยตาคู่หวานช้อนมองคนตรงหน้าช้าๆอีกครั้ง หากแต่ครั้งนี้มันไม่ได้เต็มไปด้วยความกลัวเหมือนเก่า
“ข้าไปแป๊บเดียว เดี๋ยวข้าก็กลับมา” ย่อตัวลงจนความสูงใกล้เคียงกับร่างบาง มือหนาจับประคองใบหน้าเรียวไว้ภายในอุ้งมืออุ่นเบาๆราวกับกลัวว่าคนตรงหน้าจะแตกสลายไป
“จะ..เจ้าพูดจริงนะ” ปากอิ่มสีหวานเอ่ยถามซ้ำ ย้ำความมั่นใจอีกครั้ง
“จริงสิ..ข้าจะหลอกเจ้าทำไม” เสียงทุ้มเอ่ยบอกพร้อมกับรอยยิ้มอันแสนอบอุ่นที่ส่งมาให้อีกเช่นเคย
“ข้า..จะรอเจ้ากลับมานะ” เสียงหวานเอ่ยบอกพร้อมกับรอยยิ้มหวานจนตาปิด ใบหน้าอันไร้เดียงสาที่ส่งยิ้มหวานๆมาให้เล่นงานร่างสูงอีกครั้ง เมื่อก้อนเนื้อด้านซ้ายเต้นรั่วอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
::::::::::::::::::::::: I’m not a MONSTER ::::::::::::::::::::::::::::
เสื้อเชิ้ตสีขาวถูกสวมอยู่บนร่างของปีศาจตัวเล็ก หากแต่มันกลับดูใหญ่เทอะทะเสียเหลือเกิน แขนเสื้อที่ถูกพับขึ้นเสียหลายทบกว่ามือเรียวจะสามารถโผล่ออกมาจนสามารถหยิบจับสิ่งของได้ถนัด เรียกรอยยิ้มให้กับร่างสูงได้ไม่น้อย เมื่อคนตัวเล็กยอมให้เขาพับแขนเสื้อให้ราวกับเป็นเด็กน้อย
“เสร็จแล้วล่ะ” ยิ้มให้พร้อมกับลูบกลุ่มผมสีอ่อนช้าๆ ร่างบางเงยหน้าขึ้นก่อนจะส่งยิ้มหวานมาให้ปรางแก้มขาวแดงระเรื่อไม่ต่างจากใบหูเรียวที่แดงไม่แพ้กัน
โครงหน้าหวานที่จ้องมองอดไม่ได้เลยที่ร่างสูงจะก้มลงไปสัมผัสเรียวปากอุ่นร้อนที่ดูหวานฉ่ำน่าลิ้มลอง เรียวปากของร่างสูงครอบทับปากเรียวหวาน ปากอิ่มดูดดุนเบาๆจังหวะการดูดกลืนที่อ่อนหวานพาให้ร่างบางค่อยๆปรือตาลงรับสัมผัสอย่างยินยอม มือเรียวจับยึดเสื้อเชิ้ตของร่างสูงเอาไว้ก่อนจะกำจนมันยับย่นด้วยแรงอารมณ์อันหวาบหวามที่มันกำลังปะทุขึ้น เปลือกตาบางกระพริบช้าๆก่อนจะเปิดปรือมองด้วยดวงตาสีแดงอันหวานเยิ้ม
“เจ้าสวยเหลือเกินฮยอกแจ”จูบทับลงบนเปลือกตาบางช้าๆ ให้ความอบอุ่นแผ่ซ่านให้ร่างบางได้สัมผัส ใบหน้าหวานแดงระเรื่อก่อนจะเสมองไปทางอื่นด้วยความเขินอาย
นิ้วเรียวจับประคองปลายคางเรียวให้หันมาสบสายตาอีกครั้ง ตาคมมองร่างบางด้วยความปรารถนาที่ล้นปรี่ เรียวปากอุ่นร้อนไล่ประทับไปบนโครงหน้าหวานช้าๆ ก่อนจะค่อยๆไล่ลงมาตามต้นคอขาว สาบเสื้อที่แหวกออกจนเห็นผิวเนื้อเย็น ถูกประทับเบาๆด้วยความอุ่นร้อนของเรียวปากจนร่างบางถึงกับสะดุ้งตกใจ มือเรียวออกแรงผลักร่างหนาตรงหน้า หากแต่แรงอันน้อยนิดก็ไม่อาจจะต้านทานได้กับแรงปรารถนาที่ค่อยๆก่อตัวขึ้นเลยแม้แต่น้อย
“เป็นของข้านะ” เสียงทุ้มกระซิบด้วยเสียงอันแหบพร่าข้างใบหูนิ่มเบาๆ ก่อนจะกดจูบลงบนใบหูเรียวอย่างออดอ้อน
ไร้เสียงตอบรับมีเพียงใบหน้าแดงระเรื่อที่หลับตาพริ้มรออยู่อย่างเขินอาย เสื้อตัวใหญ่ไหลร่วงจากไหล่จนเห็นหัวไหล่ขาวเนียน สาบเสื้อที่แยกออกเผยให้เห็นยอดอกสีชมพูหวานอันน่าลิ้มลอง ปากหยักครอบลงบนยอดสีหวานผ่านเนื้อผ้าโดยไม่รอช้า ก่อนจะค่อยๆดูดกลืนมันช้าๆอย่างเร่าร้อนจนคนตัวเล็กอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงครางเครือออกมาระบายความเสียวซ่านในกาย มือหนานวดคลึงที่สะโพกกลมตึงมือช้าๆ มืออีกข้างก็สอดเข้าไปลูบไล้ผิวเนื้อเนียนอันแสนลืนมือ
“อ๊ะ..อ๊างงง” เรียวปากเล็กเผยอออกควญครางไม่ขาด เมื่อความรู้สึกแปลกใหม่ที่ไม่เคยพานพบมาก่อนแล่นเข้ามาจู่โจมกาย ร่างบางตัวสั่นระริกด้วยความเสียวซ่าน ยอดอกสีระเรื่อแข็งตึงตามการดูดดึงที่เนิบนาบเป็นจังหวะช้าๆที่คนตัวโตกว่าปรนเปรอให้ ตาคมช้อนมองใบหน้าหวานที่กำลังบิดเบี้ยวด้วยความเสียวซ่าน
ปากเล็กอ้าออกกอบโกยอากาศจนเห็นลิ้นเล็ก น้ำหวานสีใสไหลเลอะเรียวปากไปตามลำคอระหงส์ นัยตาสีแดงนั้นปรือหวานอย่างน่าหลงใหล ซีวอนดูดดึงหยอกล้อกับยอดอกสีหวานจนอิ่มเอิ่มก่อนจะลากลิ้นไล่ลงมาที่หน้าท้องเรียบที่ที่หดเกร็งด้วยความเสียวซ่าน
“หึหึ น่ารักจังเลยนะ” ร่างสูงพูดชิดติดกับหน้าท้องขาว จมูกโด่งฝังลงกับหน้าท้องขาวสูดกลิ่นหอมละมุมอันแสนบริสุทธิ์เข้าปอดอย่างหลงใหล
“อ๊ะ..อ๊า” ฮยอกแจบิดตัวเร่าด้วยความเสียว เมื่อลิ้นเรียวลากวนอยู่ที่สะดือสวยอย่างหยอกล้อ กายใหญ่ค่อยๆทาบทับลงบนร่างบอบบางที่นอนราบอยู่บนพื้นไม้เย็นเฉียบ
“อึก..อืออ..” ปีศาจตัวน้อยเชิดหน้าครางเสียงหวาน เมื่อขาเรียวถูกยกขึ้นจนเห็นร่องรักสีชมพูหวานที่กระพริบถี่ๆอย่างต้องการ นิ้วเรียวไม่รอช้าที่จะลากไล้เบาๆรอบร่องสีหวานนั้นช้าๆ
“อ๊างงงงง” สะดุ้งด้วยความเสียว สะโพกมนเอ่นเข้าหานิ้วเรียวอย่างต้องการ รอยสักบนใบหน้าหวานแดงระเรื่อ ดวงตาสีแดงค่อยๆจางลงจนกลายเป็นสีน้ำตาลอ่อน เส้นผมสีบลอนสว่างกลับกลายเป็นสีน้ำตาลเข้ม หากแต่มันก็ไม่ได้ลดความสวยงามของโครงหน้าหวานลงเลยแม้แต่น้อย
ดวงตากลมใสช้อนมองร่างสูงด้วยแววตาอันแสนยั่วยวน กายบางที่ก่อนหน้านี้เย็นเฉียบกลับร้อนรุ่มอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ร่างเล็กค่อยๆพลิกตัวขึ้นมานั่งคร่อมทับบนแกนกายใหญ่ที่กำลังดุนดันเนื้อผ้าช้าๆ ตาปรือหวานหากแต่ดูยั่วยวนอยู่ในที สะโพกมนค่อยๆถูไถกับแกนกายผ่านเนื้อผ้าอย่างยั่วยวน
“อึก...อือออ...”แขนเรียวโอบรอบคอแกร่งเอาไว้ ใบหน้าหวานเชิดขึ้นครางเสียงหวานอย่างอดรนทนไม่ไหวกับความเสียวซ่านที่ก่อตัวขึ้น
“ฮยอกแจ..อื้อออ...อยากได้..อ๊ะ..อ๊า...อันนี้” คนตัวเล็กครางเสียงหวาน แก้มแดงระเรื่อด้วยความอาย
“ก็เอาเลยสิครับ” คนตัวสูงกว่ากระซิบบอกชิดริมใบหูนิ่มช้าๆ เรียกรอยยิ้มหวานที่ดูเหม่อลอยและเต็มไปด้วยความปรารถนาให้ปรากฏบนใบหน้าหวาน
มือเรียวค่อยๆจับประคองแกนกายใหญ่ก่อนจะค่อยๆกดสะโพกกลืนกินช้าๆ
“อึก..อื้ออ..อ๊า” สะโพกมนค่อยๆขยับช้าๆเมื่อสะโพกดูดกลืนส่วนแข็งขืนเข้าไปจนหมด จังหวะการร่วมรักค่อยๆเริ่มขึ้นช้าๆก่อนจะจบลงเมื่อน้ำรักสีขุ่นขาวถูกฉีดพุ่งเข้าไปในร่องรักของคนตัวเล็กกว่าจนมันไหลย้อยออกมาตามแกนกายที่ค่อยๆหลุดออกมาจากช่องรัก
เส้นผมสีเข้มค่อยๆเปลี่ยนกลับไปเป็นสีบลอนสว่างอีกครั้งพร้อมกับรอยสักบนแก้มขาวที่ค่อยๆจางหายไป มือหนาค่อยๆลูบไล้พวงแก้มขาวช้าๆด้วยความเอ็นดู กายบางที่เต็มไปด้วยรอยประทับสีกุหลาบดูสวยงามในความรู้สึก ตาหวานที่หลับพริ้มจากความเหนื่อยอ่อนที่เกิดขึ้นเรียกรอยยิ้มให้เขาได้อีกครั้ง
::::::::::::::::::::::: I’m not a MONSTER ::::::::::::::::::::::::::::
//ปุง...ตุ๊ม//
เสียงพลุพร้อมกับประกายไฟสีแดงฉานที่ส่องประกายบนท้องฟ้าดังขึ้นอีกครั้ง เสียงกรีดร้องของอะไรบางอย่างดังลั่นทั่วทั้งหมู่บ้าน เสียงร้องโหยหวนที่ดังขึ้นปลุกให้คนตัวเล็กเจ้าของนัยตาสีแดงต้องเบิกตาโพลง
“ท่านแม่!” เสียงหวานกรีดลั่นก่อนที่ปีกสีขาวจะสยายออกอีกครั้ง มันแผ่ออกกว้างจนแทบจะเต็มพื้นที่ห้อง
“ฮยอกแจ..เป็นอะไร เกิดอะไรขึ้น” แขนแกร่งรีบเกี่ยวรั้งเอวบางของคนตัวเล็กเอาไว้แน่น ใบหน้าคมซุกซบอยู่กับแผ่นหลังบาง
“ท่านแม่..ท่านแม่” ไร้ซึ่งเสียงตอบรับ มีเพียงเสียงหวานที่เอ่ยคำเก่าซ้ำๆวนไปวนมา
//////อ๊ากกกกกกกกกกกก////
เสียงดังจนแสบแก้วหูที่ดังมาจากที่อันห่างไกลดังขึ้นอีกครั้ง จนร่างสูงจำต้องละมือออกจากเอวบางมาปิดป้องใบหู เมื่อหลุดจากอ้อมกอด ร่างเล็กไม่ได้โผ่บินออกไป หากแต่ขาเรียวกลับดูไร้เรี่ยวแรง หยาดน้ำตาเอ่อคลออยู่ที่ขอบตาคู่หวานก่อนจะไหลลงมาเป็นทาง
“ท่าน...ฮึก..ฮืออ..ท่านแม่” น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าร่วงหล่นลงมาไม่ขาดสาย ก่อนที่ร่างอันแสนบอบบางจะทิ้งตัวลงอย่างไร้สติ
ดวงตาคู่หวานเปิดปรืออีกครั้ง พร้อมกับภาพของชายหนุ่มร่างสูงเจ้าของลักยิ้มบุ๋มสองข้างแก้มที่ปรากฏให้เห็นทันทีที่ลืมตา ดวงหน้าที่เคยดูเปร่งปรั่งกลับดูเศร้าหมองจนน่าสงสัย
“เจ้าเป็นอะไรรึป่าวฮยอกแจ” เสียงทุ้มเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง ข้อนิ้วเรียวเกลี่ยไล้เบาๆที่ข้าง แก้ม ซึมซับความเย็นชืดของผิวกายของคนตัวเล็กอย่างเบามือ
ไม่มีเสียงตอบรับจากคนตัวเล็กหากแต่เป็นน้ำตาที่ต่างพร้อมกันไหลร่วงลงมาพร้อมกับใบหน้า หวานที่ส่ายตอบเป็นการปฏิเสธจนแพรผมสีสว่างยุ่งเยิง
เรียวปากอุ่นร้อนประทับเบาๆบนกลีบปากสีแดงระเรื่อ ก่อนจะไล้จูบซับหยาดน้ำตาที่ไหลอาบปราง แก้มใสช้าๆ
“บอกข้านะคนดี เจ้าเป็นอะไร” แนบหน้าผากกับหน้าผากมนช้าๆ ก่อนจะพูดชิดติดเรียวปาก ดวงตาดำขลับที่จ้องมองลึกเข้าไปในตาคู่หวานเต็มไปด้วยความห่วงใยอย่างไร้ข้อกังขา
“ข้า..ฮึก..ข้าไม่..เหลือใครแล้ว..ท่าน..ท่านแม่ของข้า..ฮึก..ฮืออ..ตายแล้ว” เสียงหวานอันสั่นเครือ เอ่ยตอบ ตากลมช้อนมองด้วยน้ำตาที่คลอหน่วงจนน่าสงสาร
“เจ้ายังมีข้า ข้าจะอยู่ข้างเจ้าตลอดไป” กอดรัดร่างบางเอาไว้ในอ้อมกอดแน่น มือหนาลูบบนกลุ่ม ผมนุ่มอย่างเบามือ
“ตะ..แต่ว่า..ข้ากับเจ้า.........”
“อย่าพูดอะไรอีกเลยคนดีของข้า” ประทับจูบลงบนเรียวปากบางอย่างอ้อยอิ่งเมื่อคนตัวเล็กในอ้อมกอดกำลังจะพูดในสิ่งที่ตัวเองไม่ต้องการฟัง
“ขะ..ข้าเชื่อเจ้า เจ้าอย่าทิ้งข้าไปไหนนะ” ซุกหน้าเข้ากับแผ่นอกพร้อมกับอ้อมแขนบางที่โอบรัดรอบเอวสอบตอบรับความอบอุ่นที่ถูกส่งผ่านมาให้
“ข้ารักเจ้า.....คนดีของข้า” เสียงกระซิบอันแผ่วเบาถูกเอ่ยขึ้นชิดริมใบหูเรียว อ้อมกอดที่โอบล้อมรอบตัวร่างบางเป็นดังเช่นคำสัญญาว่าเราจะไม่พรากจากกัน
::::::::::::::::::::::: I’m not a MONSTER ::::::::::::::::::::::::::::
จากวันเป็นคืนหมุนวนผ่าน ห้องเล็กๆในตรอกแคบที่ห่างไกลจากผู้คน กลายเป็นที่ประจำที่ร่างสูงจะต้องแวะเวียนเข้ามา เพื่อพบกับรอยยิ้มอันแสนสดใสของคนตัวเล็กนัยตาสีทับทิม
“คิคิ อร่อยจังเลย ซีวอนข้าอยากกินอีก” เสียงหวานดังลอดออกมาจากห้องครัวเล็กๆ รอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าหวาน มือเรียวที่เกี่ยวเกาะอยู่บนลำแขนแกร่งไม่ได้สร้างความรำคานให้กับผู้เป็นเจ้าของเลยแม้แต่น้อย มันกลับสร้างรอยยิ้มให้บนใบหน้าหล่อเหลาได้ไม่มีวันจาง
“เอาไว้ข้าจะทำให้เจ้ากินอีกนะ”ยิ้มตอบก่อนจะก้มลงไปสูดความหอมจากพวงแก้มขาวให้ชุ่มปอด
“อ๊ะ..คิคิ ข้าจั๊กจี้น๊า ไม่เอาแล้ว ไม่ให้ทำแบบนั้นแล้ว” คนตัวเล็กเอ่ยเสียงใสปนเสียงหัวเราะ ศีรษะเล็กเอียงหลบจมูกคมที่จ้องแต่จะฉกฉวยความหอมละมุมจากคนตัวเล็ก
“คงจะไม่ได้แล้วล่ะ เพราะข้าชอบแก้มหอมๆของเจ้านัก” ตวัดมือโอบรัดเอวบางเอาไว้ในอ้อมกอด ก่อนจะกดจมูกซุกไซร้พวงแก้มขาว จนคนตัวเล็กที่ไร้ซึ่งทางหนีทำได้เพียงแต่ดิ้นเร่าๆอยู่ในอ้อมแขนอย่างน่ารัก
“อื้ออ..คิคิ..ไม่เอาน๊า ปล่อยข้าน๊า คิคิ ข้าจั๊กจี้น๊า”
“......”
“ซีวอน..ใจร้าย..คิคิ..ปล่อยข้าน๊า..อื้มมมมม” แล้วเสียงโหวกเหวกของคนตัวเล็กก็ถูกดูดกลืนด้วยเรียวปากอุ่นที่ทาบทับปิดเสียงประท้วงจนหมดสิ้น ดวงตาคู่หวานค่อยๆปิดปรือลงช้าๆ มือเรียวโอบรอบลำคอแกร่งอย่างต้องการที่ยึดเหนี่ยวเมื่อความร้อนแรงค่อยๆเพิ่มขึ้น
มือหนาสอดเข้าไปลูบไล้เอวคอดเบาๆอย่างหลงใหล เสียงครางเครือในลำคอของคนตัวเล็กบอกได้ดีถึงแรงอารณ์ที่ค่อยๆปะทุขึ้น ร่างสูงค่อยๆถอนปากออกช้าๆเพื่อให้ร่างบางได้กอบโกยอากาศ
เรียวปากสีแดงช่ำอ้าออกกอบโกยอากาศจนตัวโยนก่อนจะถูกริดรอนสิทธิ์อีกครั้งเมื่อร่างสูงประกบปากอุ่นร้อนเข้าหาอีกครา แขนแกร่งออกแรงยกคนตัวบางขึ้นไปนั่งบนเคาร์เตอร์ทำอาหารโดยที่เรียวปากก็ยังคงทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี มือเรียวโอบรอบคอร่างสูงอย่างเคยชิน ขาเรียวแยกออกให้ร่างสูงสามารถยืนได้ พร้อมกับบทจูบร้อนแรงที่ยังคงดำเนินต่อไป
ซีวอนค่อยๆผละตัวออกจากร่างบางช้าๆอย่างเสียดาย นิ้วเรียวเกลี่ยคราบน้ำหวานสีใสที่ไหลเลอะเรียวปากอิ่มสวยออกให้ช้าๆ
“ผมต้องไปข้างนอก” เสียงทุ้มพูดชิดริมเรียวปากบาง ก่อนที่จมูกคมจะกดลงบนพวงแก้มขาวเบาๆ
“ม่ะ..ไม่เอานะ” คนตัวเล็กส่งเสียงประท้วงอย่างเอาแต่ใจ ราวกับเป็นเด็กน้อย แขนเรียวเอื้อม ออกไปโอบกอดรอบเอวสอบเอาไว้แน่น
“อย่าดื้อสิคนดี ผมไปแค่แป๊บเดียว เดี๋ยวผมก็กลับมา” พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำอันแสนอ่อนโยน เหมือนเช่นเคย รอยยิ้มที่ฉายชัดบนใบหน้าบอกให้ร่างบางสบายใจอยู่ในที
ตาหวานช้อนมองอย่างออดอ้อน ก่อนจะยอมพยักหน้ายินยอมโดยง่าย เมื่อหันมาพบกับสายตาคม ที่ทอดมองมา
“ยะ..อย่าไปนานนะ ข้าจะรอเจ้ากลับมา”
ประตูรถยนต์คันหรูถูกเปิดออก พร้อมกับร่างสูงของชายหนุ่มผู้มีใบหน้าเรียบเฉยจะก้าวเดินออกมาด้วยท่วงท่าอันสง่างาม
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะ คุณชายซีวอน”
::::::::::::::::::::::: I’m not a MONSTER ::::::::::::::::::::::::::::
ดวงตะวันค่อยๆคล้อยต่ำลง แสงสีแดงอมส้มทอดผ่านหน้าต่างกระทบกับผิวขาวๆของคนตัวเล็กที่นั่งทำอะไรบางอย่างอยู่ริมหน้าต่าง ดวงตากลมใสมองออกไปนอกกระจกใสด้วยความอยากรู้อยากเห็นเสียเต็มประดา รอยยิ้มบนใบหน้าปรากฏให้เห็นเป็นระยะเมื่อได้พบกับอะไรที่ถูกใจ
เสียงใสๆที่ดังแว่วออกมาจากเรียวปากเล็กขับขานเป็นบทเพลงอันแสนไพเราะ นิ้วเรียวฃี้เล่นที่หยดน้ำที่เกาะอยู่นอกหน้าต่างราวกับเด็กน้อย
“เมื่อไหร่จะกลับมานะ” เสียงหวานงึมงำเบาๆ พร้อมกับพวงแก้มใสที่พองออกอย่างน่ารัก
“ฮยอกแจกับซีวอนอยู่ด้วยกัน..คิคิ” ปรางแก้มขาวกลายเป็นสีแดงระเรื่อเมื่อนึกถึงใครอีกคนที่เฝ้ารอ
// ปึง //
เสียงอะไรบางอย่างที่กระแทกกับฝาผนังห้องทำให้ร่างบางที่กำลังนั่งเหม่ออยู่ถึงกับต้องสะดุ้งด้วยความตกใจ ก่อนใบหน้าเรียวสวยจะค่อยๆเผยรอยยิ้มออกมาอีกครั้ง
“ซีวอนกลับมาแล้ว” ยิ้มหวานด้วยความดีใจ ก่อนจะรีบวิ่งไปตามต้นเสียง
“ซีวอนนนนน..” เรียกเสียงหวานพร้อมกับรอยยิ้ม ดวงตาสีทับทิมดูเต็มไปด้วยความสุขอย่างเต็มเปี่ยม
ประตูบานใหญ่ถูเปิดออก พร้อมกับร่างของคนแปลกหน้านับสิบที่ยืนอยู่หลังประตู ดวงตากลมสีทับทิมสั่นไหว ด้วยความหวาดกลัว เท้าบางค่อยๆขยับก้าวถอยหลังช้าๆ กายบางสั่นระริกด้วยความกลัว
“มะ..ไม่ใช่ซีวอนนี่นา” เสียงหวานงึมงำออกมาเบาๆเพียงลำพัง ก่อนที่เสียงกรีดร้องที่แสนน่าสงสารจะปรากฏขึ้น เลือดหยดแล้วหยดเล่าที่หยดลงบนพื้น ดูจะไม่ช่วยให้คนเหล่านั้นหยุดการกระทำ ปีกสีขาวสะอาดแปดเปื้อนไปด้วยหยาดเลือดอีกครั้ง น้ำตาไหลอาบสองปรางแก้มใส พร้อมกับสติที่เลือนราง
ขบวนรถนับสิบคันมุ่งสู่คฤหาสหลังใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนหน้าผา เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มที่ดังไม่ขาดสาย ก่อนจะเงียบลงเมื่อทุกคันจดดนิ่งสนิทอยู่หน้าคฤหาสหลังใหญ่
เสียงบรรดาคนผู้คนที่รายล้อมอยู่รอบรถส่งเสียงดังไม่ขาดสาย พร้อมกับร่างบอบบางของคนตัวเล็กที่ถูกแบกออกมาด้านนอก
“เห็นครั้งแรก..ข้าละไม่เชื่อเลยว่านางคือปีศาจ” เสียงพูดคุยของคนงานร่างใหญ่พูดขึ้นเมื่อได้เห็นใบหน้าเนียนขาวของคนตัวเล็ก
“ข้าก็คิดแบบนั้น”
“วันนี้ข้าอาจจะไม่กลับมาที่บ้าน” เสียงทุ้มของชายหนุ่มร่างสูงเอ่ยบอกกับสาวใช้ประจำตัวก่อนจะเดินออกไปภายนอก
โถงทางเดินที่เต็มไปด้วยของประดับที่ดูหรูหราฟู่ฟ่า อีกทั้งบรรดาคนใช้นับสิบ ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกกระหยิ่มยิ้มย่องหรือดีใจเลยแม้แต่น้อย ชีวิตประจำวันที่ต้องดำเนินวนเวียนซ้ำไปซ้ำมา มันดูน่าสะอิดสะเอียนจนเขาไม่อยากจะมีชีวิตอยู่
ความลับอันแสนโสมมของตระกูลที่เขาทนแบกรับ มันแทบจะทำให้เขาทนรับมันต่อไปไม่ไหว ตระกูลที่ได้ชื่อว่าตระกูลปราบปีศาจ ช่างเป็นเรื่องน่าขำที่ถูกเล่าสืบต่อกันมา หากใครได้รู้ความเป็นจริงก็คงจะมีความรู้สึกไม่ต่างกัน
บรรพบุรุษของตระกูลชเว เป็นสเหมือนผู้บุกเบิกดินแดนแห่งนี้ ผืนดินที่ก่อนหน้านี้เคยเป็นของสิ่งมีชีวิตที่สวยงาม พวกมันใช้ชีวิตอยู่อย่างเรียบง่าย ไม่เคยคิดที่จะรุกรานใคร หากแต่มนุษย์กลับเป็นคนเปิดศึกเพียงเพื่อให้ได้มาซึ่งโลหิตของสิ่งมีชีวิตอันแสนบริสุทธิ์ ความบริสุทธิ์ของหนึ่งชีวิตเพื่อให้ได้มาซึ่งยาอายุวัฒนะ
หลายปีพ้นผ่าน ผืนดินที่เคยอุดมสมบูรณ์ถูกแทรกแซงด้วยบ้านเรือนและสิ่งก่อสร้าง ตระกูลผู้บุกเบิกอันแสนยิ่งใหญ่ได้รับการยกย่อง ในขณะที่สิ่งมีชีวิตที่แสนบริสุทธิ์ถูกตราหน้าว่าเป็น “ปีศาจ”
เสียงเอะอะโวยวายที่ดังลอดเข้ามาภายในบ้านเรียกความสงสัยให้กับร่างสูงได้ไม่น้อย คิ้วเข้มขมวดมุ่นด้วยความสงสัย
“นั่นเสียงอะไรน่ะ” เสียงทุ้มเอ่ยถามคนงานในบ้านที่กำลังทำความสะอาดกันอยู่อย่างขมักเขม่น
“ได้ข่าวว่าวันนี้จับตัวปีศาจที่แอบหนีเข้าไปในหมู่บ้านมาได้ค่ะคุณชาย”
“ว่าไงนะ!” ใบหน้าเรียวหวานของใครบางคนสว่างวาบเข้ามาในความคิด รอยยิ้มแสนหวานที่มักจะปรากฏให้เห็นทุกครั้งยามที่ได้เห็นอะไรที่แปลกใหม่ เสียงหวานๆที่คอยเอ่ยเรียกชื่อของเขาอยู่เสมอในทุกค่ำคืนยามเมื่อได้ซบอิงผิวเนื้ออุ่น
“ข้าไม่ใช่ปีศาจนะ” คำปฏิเสธที่ดูแข็งกร่าวหากแต่ใบหน้าเรียวกลับเต็มไปด้วยน้ำตา ปรากฏให้เขาได้เห็นอีกครั้ง
.............คงไม่ใช่เจ้าใช่ไหมคนดีของข้า..คงไม่ใช่เจ้าที่โดนจับตัวมาใช่ไหม...ฮยอกแจ..........
::::::::::::::::::::::: I’m not a MONSTER ::::::::::::::::::::::::::::
ตากลมสีทับทิมค่อยๆเปิดปรือช้าๆ ห้องมืดสีดำสนิทคือสิ่งแรกที่ร่างเล็กได้พบเห็น กายบางสั่นระริกด้วยความกลัว น้ำตาหยดใสคลอหน่วงอยู่ที่ขอบตาที่ร้อนผ่าว
///แอดดดดด////
เสียงประตูบานใหญ่บานเดียวในห้อง ถูกเปิดออกช้าๆ ด้วยท่าทางระมัดระวัง แสงสว่างที่ลอดผ่านเข้ามาพร้อมกับเงาร่างของชายร่างสูงที่ทอดผ่านลงบนพื้นหินเย็นเยียบทำให้ร่างบางต้องขยับตัวกระชับอ้อมแขนกกกอดตัวเองให้มากขึ้น หัวกลมๆก้มลงซุกเข้ากับท่อนแขน
“ข้าเอง” เสียงกระซิบเบาๆดังขึ้น พร้อมกับสัมผัสอุ่นๆจากฝ่ามือร้อนบนศีรษะอันแสนคุ้นเคย
“ซีวอน” โถมตัวเข้ากอดเต็มแรงจนร่างสูงต้องก้าวเท้าไปตั้งหลัก น้ำตาหยดใสไหลพรากไม่ขาดสาย ตัวเล็กๆที่กำลังสั่นเทาดูจะเป็นคำตอบได้ดี เสื้อเชิ้ตเนื้อดีที่กำลังเปียกชุ่มจากหยดน้ำตาของร่างเล็กเร่งให้มือใหญ่ต้องคอยลูบกลุ่มผมสีสว่างตานั้นเบาๆ
“ไม่เป็นไรแล้วนะ ไม่เป็นไรแล้ว ข้าอยู่นี่แล้ว” เสียงทุ้มเอ่ยปลอบเบาๆ พรางประทับจูบลงบนกลุ่มผมนุ่มเบาๆ
“ข้าจะพาเจ้าออกไปจากที่นี่” เสียงทุ้มเอ่ยบอกชิดริมใบหูนิ่มเบาๆ ก่อนจะกดจูบลงบนหน้าผากมน คนตัวเล็กพยักหน้ารับช้าๆ
แขนแกร่งโอบกระชับรอบเอวบางก่อนจะพาขยับเดินไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง
// แปะๆ //
เสียงปรบมือจากใครบางคนดังออกมาจากหน้าประตูทางเข้า ร่างสูงใหญ่ของผู้นำตระกูลค่อยๆปรากฏให้เห็นช้าๆ พร้อมกับแสงสว่างจากคบเพลงที่ค่อยๆสว่างขึ้นช้าภายในห้อง
“น่าชื่อชมเสียจริง เจ้าลูกชาย” ร่างใหญ่เอ่ยบอกพร้อมรอยยิ้มที่ไม่อาจเดาได้ถึงความคิดภายใน
“ท่านพ่อ” ตาคมตวัดมองพร้อมกับเบิกกว้างด้วยความตกใจ ร่างน้อยๆที่อยู่ในอ้อมแขนดูจะสั่นไหวด้วยความกลัวอย่างเห็นได้ชัด จนเขาต้องกระชับกอดให้แน่นกว่าเก่า
“เจ้าจะพามันไปไหน”
“ขะ..ข้า”
“เจ้าก็รู้นี่ว่ามันเป็นอะไร” ยังไม่ทันที่ร่างสูงจะพูดจบ ก็ถูกแทรกเสียก่อนด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยอำนาจ แขนเรียวของคนตัวเล็กถูกกระชากออกมาจากอ้อมกอด
“ซะ..ซีวอน” มืออีกข้างที่ไม่ได้อยู่ในการเกาะกุมของร่างใหญ่ที่เป็นคนงานในบ้านของร่างสูง พยายามอย่างยิ่งที่จะยื่นออกไปไขว่คว้าจับเอามืออุ่นๆที่เคยกอบกุมกันเอาไว้
“ออกไปจัดเตรียมพิธีชำระล้างได้แล้ว” เสียงทุ้มของผู้นำตระกูลสั่งด้วยน้ำเสียงที่เฉียบขาด ก่อนจะหมุนตัวเดินออกไป ทิ้งไว้เพียงแต่ร่างสูงที่ได้แต่ยืนอยู่ตรงนั้น
จากไปแล้ว คนดีของเขา จากไปโดยที่เขาไม่ได้ทำอะไรเลย มือใหญ่ค่อยๆยกขึ้นมาช้าๆก่อนจะมาแนบสนิทที่แก้มสาก พยายามซึมซับกลิ่นหอมอ่อนๆที่ยังคงตราตรึงอยู่บนฝ่ามือ
“คุณชายค่ะ”เสียงเรียกจากสาวใช้ประจำตัวเอ่ยขึ้นพร้อมกับวัตถุบางอย่างที่ถูกยื่นมาให้ตรงหน้า คิ้วคมขมวดมุ่นด้วยความสงสัย ก่อนที่รอยยิ้มบนใบหน้าของสาวใช้ค่อยๆคลี่ออกช้าๆ
::::::::::::::::::::::: I’m not a MONSTER ::::::::::::::::::::::::::::
ลานกลางหมู่บ้านคล่าคร่ำไปด้วยฝูงชน ชาวบ้านทุกเพศทุกวัยต่างออกมารวมตัวกันอย่างพร้อมเพรียงล้อมรอบแท่นหินที่บนนั้นมีร่างบอบบางของคนตัวเล็กผู้มีผมสีสว่างตาอยู่ตรงกลาง
“ปีศาจ”
“ใช่..นั่นมันปีศาจ”
“ฆ่ามัน!”
เสียงโหวกแหวกของชาวบ้านกู่ร้องอย่างบ้าระห่ำ ก้อนหินก้อนแล้วก้อนเล่าถูกโยนขึ้นไปหวังให้ร่างของปีศาจที่อยู่ด้านบนได้รับบาดเจ็บ
“ฮึก..ฮือ..ไม่ใช่..”
“ปีศาจ...”
“ฮึก..ฮืออ..ฮยอกแจ..ไม่ใช่ปีศาจนะ” น้ำตาหยดใส ไหลอาบปรางแก้มขาวที่ดูแสนจะบอบช้ำ ดวงตาสีทับทิมสั่นระริกคลอหน่วงไปด้วยน้ำตา
“เอา..ล่ะๆ พอๆ” ร่างสูงใหญ่ของผู้นำตระกูลล่าปีศาจ เดินขึ้นมาหยุดอยู่กลางแท่นพิธีด้วยท่าทางอันสง่างาม รอยยิ้มกระหยิ่มยิ้มย่องบนใบหน้า ดูจะเต็มไปด้วยความสุขเสียเต็มประดา เมื่อได้เห็นปีศาจตัวเล็กโดนทำร้าย
“เราจะทำการชำระล้างปีศาจตนนี้”
“เฮ้....” เสียงเฮของชาวบ้านดังสนั่น ก่อนที่ร่างสูงของผู้นำตระกูลล่าปีศาจจะสืบเท้าเข้าไปหาร่างบาง
“หึหึ เลือดที่บริสุทธิ์ของเจ้าจะทำให้ข้าเป็นอมตะ” เสียงเย็นเยียบกระซิบบอกใกล้หูคนตัวเล็ก กริชเล่มเล็กถูกดึงออกจากฝัก ก่อนจะกดลึกลงไปบนแขนเรียวจนเป็นทางยาว หยดเลือดสีแดงสดค่อยๆไหลออกมาช้าๆ โดยไร้ซึ่งเสียงร้องของคนตัวเล็ก
ขวดแก้วใบเล็กที่ถูกเก็บรักษาอย่างดี ที่ภายในยังคงมีของเหลวสีแดงอยู่เพียงน้อยนิดถูกนำออกมารองรับโลหิตสีสดจากกายคนตัวเล็กเอาไว้จนเกือบเต็ม
“หึหึ” เสียงทุ้มกังวานหัวเราะลั่น เมื่อได้รับในสิ่งที่ตัวเองต้องการ หากแต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อของเหลวสีแดงฉานที่ถูกผสมรวมกันกลับแปรเปลี่ยนเป็นสีขาวนวลราวน้ำนม
คิ้วเข้มขมวดมุ่นด้วยความสงสัย ใบหน้าขึงขังเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
“แก แกทำอะไร นังปีศาจ” มือแกร่งตรงเข้าบีบรูปหน้าสวยให้เงยขึ้นตามแรงดึงอย่างไร้ความปรานี เผยให้เห็นใบหน้าเรียวอันแสนบริสุทธิ์ที่ดูไร้ซึ่งความรู้สึก ดวงตาสีทับทิมดูเหม่อลอยไม่แสดงอารมณ์ใดๆทั้งสิ้น รอยแผลที่ถูกกรีดยังคงมีเลือดไหลไม่หยุด หากแต่มันก็ไม่ได้ทำให้ร่างบางรู้สุกอะไรได้เลยแม้แต่น้อย
“แกทำอะไร บอกมาเดี๋ยวนี้นะ” แรงเขย่าที่ใบหน้าเรียว ไม่ได้เรียกสติให้ร่างบางได้เลยแม้แต่น้อย น้ำตาหยดใสค่อยๆร่วงหล่นลงมาช้าๆ พร้อมกับหยาดฝนที่โปรยปรายลงมาไม่ขาดสายเช่นกัน
ชาวบ้านต่างพากันแตกตื่นไม่ต่างไปจากผู้นำตระกูลนักล่าปีศาจ เมื่อหยาดฝนที่ควรจะเป็นเพียงหยดน้ำสีใสกลับกลายเป็นสีแดงเข้ม กลิ่นคาวคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ เมื่อหยาดฝยสีโลหิตยังคงร่วงหล่นลงมาไม่ขาดสาย
“กะ...แกทำอะไรกันแน่ นังปีศาจ” เสียงเข้มออกเสียงข่มขู่ ถึงแม้ต้นเสียงจะดูสั่นสะท้านไปบ้างก็ตาม มือหนาจับพลิกใบหน้าเรียวหันไปมา ก่อนจะเบิกตากว้าง
“รอยสัก...รอยสักหายไป..” ดวงตาคมเบิกกว้างด้วยความตกใจ เมื่อได้พบกับความจริงบางอย่างที่เรียกความตกใจให้กับเขาได้ไม่น้อย
สิ่งมีชีวิตอันแสนบริสุทธิ์เช่นฮยอกแจจะมอบดวงใจให้กับผู้เป็นที่รักเพียงคนเดียว และจะเป็นเพียงคนๆนั้นตลอดไป ถึงแม้จะพรากจากกันพวกมันก็ไม่สามารถที่จะมอบความรักให้กับใครได้อีก รอยสักบนใบหน้าเป็นตัวบ่งบอกความบริสุทธิ์ หากไร้ซึ่งรอยสักร่างอันบอบบางนี้ก็ไม่ได้บริสุทธิ์อีกต่อไป หากแต่รอยสักจะไม่หายไปหากพรหมจรรย์ของมันถูกพรากไปโดยปีศาจเผ่าพรรณเดียวกันกับมัน แต่นี่มัน..
“กะ...แก...ถูกมนุษย์...”
“หยุดเถอะท่านพ่อ” เสียงทุ้มหากแต่ทรงไปด้วยอำนาจ ตะโกนก้องออกมา ก่อนที่ร่างสูงของลูกชายเพียงคนเดียวจะเดินขึ้นมาบนแท่นด้วยใบหน้าอันเรียบตึง
“ซีวอน..แก”
เชือกที่พัธนาการร่างบางเอาไว้ถูกปลดออกออก อ้อมกอดอันแสนอบอุ่นโอบกอดร่างบางเอาไว้อย่างถนุถนอมอีกครั้ง กลุ่มผมสีอ่อนถูกประทับจูบลงไปอย่างอ่อนโยน
“อย่าร้องไห้นะ คนดีของข้า ข้ามาแล้ว..ข้ามาช่วยเจ้าแล้ว..ไม่ต้องกลัวนะ”แขนแกร่งกอดกระชับเอวบางเอาไว้ให้แนบนิดไร้ซึ่งช่องว่างระหว่างกาย
แขนเล็กที่อาบไปด้วยเลือดถูกพันด้วยผ้าสีเข้มอย่างถนุถนอม ทุกการกระทำอยู่ในสายตาของผู้เป็นบิดา ความโกรธแล่นริ้วเข้ามาในความรู้สึก
“แก...ไอ่ลูกทรยศ” เสียงเข้มตวาดลั่นด้วยโทสะ ก่อนที่ร่างใหญ่พร้อมกับกริชในมือจะพุ่งตรงไปยังร่างสูงของผู้เป็นลูกชาย
“อย่าทำอะไรซีวอนนะ!” เสียงหวีดแหลมดังสนั่นจนทุกคนในบริเวณนั้นต้องยกมือขึ้นมากุมหูด้วยความเจ็บปวด
ดวงตาสีทับทิมดูดุดันแตกต่างจากทุกครั้ง ใบหน้าหวานปรากฏรอยอักขระสีเข้มขึ้นช้าๆ ท้องฟ้าที่ก่อนหน้านี้มีหยากฝนสีโลหิตค่อยๆแปรเปลี่ยนไป เป็นพายุโหมกระหน่ำที่ดูจะไม่มีทีท่าว่าจะสงบ อาคารบ้านเรือนนับสิบหลังถูกพัดกระพือจนหลังคาหลุดร่อนออกไป เสียงกรี๊ดร้องและฝีเท้าของชาวบ้านที่ต่างวิ่งหนีความหนหนีตายกันอย่างวุ่นวาน
“ฮยอกแจ...” เสียงเรียกของร่างสูงผู้เป็นที่รักดูจะไม่ทำให้ร่างเล็กดูสงบลงได้เลยแม้แต่น้อย
ดวงตาสีแดงฉานมีน้ำตาคลอหน่วงไม่จางหาย เส้นผมสีอ่อนโบกสบัดไปตามแรงลม เศษวัสดุจากอาคารบ้านเรือนที่ถูกทำลาย หล่นลงมาสร้างความเสียให้และทำให้ชาวบ้านได้รับบาดเจ็บไม่น้อย
“ฮึก..ฮืออ..ไม่ใช่นะ..ฮยอกแจ..ไม่ใช่ปีศาจ” คนตัวเล็กงึมงำประโยคเดิมๆซ้ำไปซ้ำมาหลายครั้ง จนแทบจะจับใจความไม่ถูก
อ้อมกอดอุ่น รวบเอาร่างบางมากอดเอาไว้แน่น มือแกร่งกดศีรษะเล็กให้ซุกซบกับไหล่กว้าง กลุ่มผมสีสว่างตาถูกลูบปลอบโยนช้าๆ พร้อมกับคำหวานที่พร่ำบอกอยู่ข้างใบหูเรียว
“ถูกแล้ว..ฮยอกแจไม่ใช่ ปีศาจ หยุดเถอะนะคนดีของข้า”
สายลมโหมกระหน่ำค่อยๆสงบลงช้าๆ พร้อมกับดวงตาสีทับทิมที่กลับมาหวายเยิ้มเช่นเดิม ดวงตากลมแป๋วช้อนมองร่างสูงตรงหน้าช้าๆ
“ฮยอกแจ ไม่ใช่ปีศาจ” ริมฝีปากอุ่นร้อนประทับลงบนหน้าผากมนเบาๆ ก่อนจะคลี่ยิ้มหวานละมุนให้กับคนตรงหน้าช้าๆ
“เพราะฮยอกแจ คือดวงใจของข้า.. ดวงใจของ ชเว ซีวอนตลอดไป” สองร่างยืนเคียงข้างกันไม่ห่าง พร้อมอ้อมกอดที่โอบรัดกันไว้ไม่ยอมให้ไปไหน บอกให้รู้ว่า ความรักของสองเราไม่มีทางแยกจากกัน
[ THE END ]
FOR SPECHIL PART ::
// 2 เดือนผ่านไป //
หมู่บ้านกลับมาสงบสุขอีกครั้ง พร้อมกับการหายตัวไปอย่างลึกลับของผู้นำตระกูลชเว การล่าปีศาจดูจะถูกลืมเลือน และจางหายไปจากความทรงจำของชาวบ้านไปโดยปริยาย
“คิคิ..ซีวอนคนบ้า” เสียงหวานที่แว่วออกมาจากห้องนอนหรูดังรอดออกมา เรียกรอยยิ้มที่ไม่ค่อยจะปรากฏให้เห็นได้บ่อยนักของพนักงานในบ้านได้ไม่น้อย
เพียงวันแรกที่ร่างเล็กได้เหยียบย่างเข้ามาใบคฤหาสหลังงาม ทุกคนต่างให้การต้อนรับเป็นอย่างดี อาจเป็นเพราะรอยยิ้มและความไร้เดียงสาของคนตัวเล็กที่ตรึงใจของทุกคนจนมองข้ามผ่านความพิเศษที่มากกว่ามนุษย์ทั่วไป
“ข้าเปล่าเสียหน่อย แบบนี้มันต้องทำโทษเสียหน่อยแล้วล่ะมั้ง ที่มาว่าข้าแบบนี้”
“คิคิ ไม่เอาน๊า..ปล่อยน๊า..คิคิ” กายบางดิ้นรนหนีกายเกาะกุมจากท่อนแขนใหญ่ หากแต่แรงอันน้อยนิดหรือจะสู้เรี่ยวแรงของร่างสูง พวงแก้มใสของคนตัวเล็กที่ดูจะหอมไม่รู้คลายถูกจมูกคมระดมหอมไม่หยุด
“อ๊ะ คิคิ ..อื้ออ..ซีวอน..ออกไปก่อน..อ๊ะ..ออกไปน๊า ฮยอกแจเหม็น” คนตัวเล็กดิ้นหนีก่อนจะพยายามดันตัวออกมาจากอ้อมกอดของคนตัวใหญ่ได้ในที่สุด
“หื้ม..เป็นอะไรไป คนดีของข้า” เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง โดยไม่วายที่จะประทับจูบลงบนหัวไหล่มนที่โผล่พ้นออกมาจากเสื้อตัวบางที่ไหลร่วงลงไปกองอยู่ที่ข้อพับ
“อ๊ะ..ซีวอนเหม็น” นิ้วเล็กยกขึ้นมาปิดจมูก ปากสีชมพูหวานยู่ให้ร่างสูงเหมือนกับเด็กน้อยยามไม่พอใจ
คนตัวสูงก้มลงไปสำรวจกลิ่นกายตัวเองด้วยสีหน้าที่เป็นกังวน หากแต่ก็ไร้ซึ่งกลิ่นอันไม่พึ่งประสงค์ “ก็ไม่ได้มีกลิ่นอะไรนี่นา” คนตัวสูงเอ่ยบอก ใบหน้าคมขมวดมุ่นด้วยความสงสัย พร้อมกับมือหนาที่พยายามเอื้อมออกไปคว้าเอาตัวคนตัวเล็กเข้ามากกกอดให้หน่ำใจอีกครั้ง
“อื้ออ..แหวะ..” ร่างบางปิดปาก ก่อนจะหันออกไปโก่งคออาเจียนออกมา ใบหน้าหวานดูซีดเซียวเสียจนน่าตกใจ จนร่างสูงอดไม่ได้ที่จะเข้าไปหาด้วยความเป็นห่วง
“ฮยอกแจ...”
“แหวะ...อื้ออ..ซีวอนอย่าเข้ามาใกล้..ฮยอกแจน๊า..ฮยอกแจเหม็น” ร่างบางว่าเสียงดัง ก่อนจะหันไปโก่งคออาเจียนอีกครั้ง
ความวุ่นวายเกิดขึ้นในคฤหาส เมื่อผู้ที่ถือได้ว่าเป็นสเหมือนนายหญิงของบ้านกำลังไม่สบาย แพทย์ที่มีฝีมือดีที่สุดถูกเรียกตัวมารับการรักษา ระยะเวลาผ่านไปนานกว่าร่างสูงวัยของแพทย์จะเดินออกมาจากห้อง
“เป็นยังไงบ้าง ฮยอกแจของข้าเป็นอะไร” ร่างสูงละล้ำละลักถามด้วยความรีบร้อน เมื่อแพทย์ชราเดินออกมาจากห้อง สีหน้าเคร่งเครียดที่ปรากฏอยู่บนใบหน้า ยิ่งทำให้ร่างสูงกระวนกระวาย
“บอกข้าสิ...ฮยอกแจเป็นอะไร” มือแกร่งออกแรงเขย่าตัวคนตรงหน้าอย่างต้อวการคำตอบ
“อะ..ยะ..ยินดีด้วยครับ ท่านชเว ตอนนี้ท่านกำลังจะมีทายาท”
สิ้นเสียงของแพทย์ผู้สูงวัยรอยยิ้มแห่งความยินดีก็ปรากฏบนใบหน้าหล่อคมได้ในไม่ช้า
“จริงเหรอ ข้า..ข้ากำลังจะมีลูก”
“ครับ นายท่าน”
“เอ๋..แต่ว่าฮยอกแจบอกว่า..เหม็นแล้วก็ยังไม่ยอมให้ข้าเข้าใกล้อีกต่างหาก” ร่างสูงพูดด้วยท่าทางที่เต็มไปด้วยความกังวล ดวงตาสีดำสนิทมองมาทางร่างของคนสูงวัยกว่าอย่างต้องการคำตอบ
“อ้อ เรื่องนั้น อาจจะเกิดจากอาการแพ้ทั่วไป อีกไม่กี่สัปดาห์ก็คงจะหายเป็นปกติ” ร่างสูงยิ้มร่า เมื่อได้รับคำตอบ ก่อนจะเรียกให้คนมาส่งนายแพทย์ผู้สูงวัยกลับไป
ห้องนอนอันแสนหรูหราดูเงียบสงบ มีเพียงร่างบอบบางที่นอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงนอนหลังใหญ่ ร่างสูงค่อยๆนั่งลงข้างกายคนตัวบางช้าๆ ข้อนิ้วเรียวไล้เกลี่ยที่พวงแก้มขาว ลากไล้ไปปัดปรอยผมที่ร่วงลงมาปรกใบหน้าหวานออกให้เบาๆอย่างไม่ต้องการให้คนตัวเล็กต้องตื่นขึ้นมาจากนินทรา
“อย่าทำให้แม่ของเจ้าต้องเหนื่อยเพราะเจ้านักเลย เจ้าตัวเล็กของพ่อ” ก้มลงจูบลงบนหน้าท้องเรียบเบาๆ ก่อนจะยิ้มออกมาบางๆกับสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆที่กำลังค่อยๆก่อกำเนิดขึ้นในกายของคนตัวเล็ก
สิ่งที่เกิดจากความรักของเขาและคนตัวเล็ก “ข้ารักเจ้า คนดีของข้า”
เรียวปากอุ่นร้อนประทับลงบนหน้าผากมนเบาๆ ก่อนที่ร่างสูงจะเดินออกไป ปล่อยให้คนตัวเล็กผู้เป็น ภรรยา ได้พักผ่อนอีกครั้ง
( ติดตามอ่านต่อได้ใน MONSTER SPECHIL )